เล่าสู่กันฟังกับ.....Ricoh GR2

"ผู้หญิงน่าตาธรรมดา แต่ทำไมดูมีเสน่ห์เหลือเกิน"
นี่แหละครับความรู้สึกแรกที่ได้กล้อง GR2 มาลองใช้ กล้องอะไรทำไมมันดูเรียบๆ เล็กๆ แต่ดูแล้วน่าใช้มากๆ จริงๆกล้อง GR2 ก็คือ กล้อง Compact กล้องที่ไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์ ผมจะไม่พูดถึงเรื่องสเปคอะไรมากมายนะครับ เพราะอ่านแล้วน่าเบื่อ แต่จะเล่าให้ฟังว่ามันดีไหม ใช้ง่ายรึปาว เหมาะกับใครครับ


ครั้งแรกที่ได้ลองใช้ GR2 ต้องบอกว่าไม่ถนัดเท่าไร เพราะมันเล็กมาก โดยทาง Ricoh thailand ให้ผมมาทั้งชุดเลย วิวฟายเดอ เลนส์ไวด์ มาโคร รีโมท ซึ่งก็งงๆว่าทำไมเยอะจัง พอลองทำความเข้าใจกับการใช้งานของมัน เออ!!! มันก็โอเคนะ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเอาหละ...คราวนี้ลองเอาไปถ่ายจริงๆกันดีกว่า








ผมใช้เวลากับกล้อง GR2 ประมาณ 1 เดือน โดยใช้แบบให้มันอยู่ในชีวิตประจำวันของผม ต้องบอกว่าโอเคครับ ผมไม่ต้องแบกกล้อง แบกเลนส์อะไรหนักๆเลย พกใส่กระเป๋าได้สบาย เวลาเห็นอะไรน่าถ่าย ก็หยิบกล้องออกมา Snap ได้ทันทีเพราะไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมาย ส่วนเรื่องไฟล์ภาพสำหรับผมเองนะ รับได้สบายๆ ถ่ายแบบดัน iso เยอะๆ noise ก็ไม่น่าเกลียด ในกล้องก็จะมีพวก Filter ให้ลองใช้กัน แต่ที่แนะนำเลยคือ filterขาวดำสวยดีครับ เออมีมาโครด้วยนะ ถ้าไม่ซื้อตัว wide con ในกล้องก็มีโหมดมาโครให้ใช้ คราวนี้ผมจะลองแยกเป็นข้อๆให้นะ ว่ามันมีอะไรดี


1. กล้อง GR2 มีขนาดเล็กมากๆ ผมว่าประมาณ iphone4 ซึ่งทำให้สะดวกในการพกพามากๆ ไปในมาไหนก็เอาติดตัวไปได้ ใครที่เคยใช้แต่มือถือถ่ายรูปแล้วอยากได้กล้องที่ฟิลลิ่งเดียวกัน GR2 เหมาะสมครับ
2. ผมว่ามันเป็นกล้องแฟชั่นนะ เพราะมันสามารถทำให้เราแต่งตัวได้ง่ายขึ้นด้วย เช่นวันไหนต้องไปงานเลี้ยงในโรงแรม ต้องแต่งตัวบูติคๆหน่อย ก็สามารถพก GR2 ไปได้สบายๆ โดยไม่ต้องแบกกระเป๋ากล้องไปให้เสียลุค วันไหนอยากเซอร์ๆ แนวๆ ก็ห้อยคอได้เช่นกัน สาวๆก็พกใส่กระเป๋าชาแนลได้โดยไม่กระทบตลับแป้งอย่างแน่นนอน (ความรู้สึกตัวเองล้วนๆ)
3. คุณภาพของรูปที่ได้ ส่วนมากผมจะถ่ายเป็น raw ไฟล์ ซึ่งพอนั่งดูไฟล์ในคอมแล้วผมว่ามันโอเคนะ ถึงจะเป็นกล้อง compact แต่เรื่องไฟล์ภาพถือว่าทำได้ดีมากครับ
4. วัสดุ กล้อง GR2 ใช้บอดี้เป็น magnesium alloy ซึ่งใช้ในกล้อง dslr โปรๆ ทำให้กล้องดูแข็งแรง งานประประกอบถือว่าดีมากครับ
5. สำหรับผมถ่ายฟิล์มอยู่แล้ว พอได้ Gr2 มา บางจังหวะยังให้ช่วยวัดแสงได้อีกด้วย หรือภาพไหนกลัวพลาด ผมก็เอา Gr2 ช่วยเก็บภาพไว้อีกแรง ข้อนี้ถูกใจมากๆ





อีกอย่างนะครับ กล้องตระกูลนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวพอสมควร ลองไปหาอ่านกันได้









สำหรับผมนะ ผมจะปิด Liveview แล้วตั้งค่า AV ใช้ Fเดิมตลอด แล้วมองจาก Vf เอาเวลาถ่าย ได้ฟิลลิ่งแบบกล้อง Dslr ครับ เวลา Snap ก็ตั้งค่าในกล้องได้ 

สรุปสุดท้ายนะครับสำหรับกล้อง GR2 
* ถ้าใครสนใจจะใช้ผมว่าไม่ต้องไปสนใจสเปคอะไรมากมาย เพราะมันคือกล้องใช้ฟิลลิ่งในการถ่ายล้วนๆ ถ่ายสนุก มีความสุขที่จะได้ออกไปถ่ายรูปก็พอครับ
* ชอบถ่าย Street ก็ดีครับ แต่จริงๆก็ถ่ายได้หมดแหละ ภาพอาหาร บุคคล ดอกไม้ ถ่ายได้หมดครับ
* ผมว่ามันเหมาะจะให้เป็นของขวัญด้วยนะ แบบอยากซื้อกล้องให้แต่ก็กลัวว่าจะต้องหาเลนส์ให้วุ่นวาย ก็ GR2 เลยครับ รับรองคนรับต้องชอบแน่นอน
* ซื้อให้พ่อกับแม่ใช้ก็ดีนะ เพราะมันใช้ง่าย เพื่อไว้เวลาที่พ่อกับแม่ไปเที่ยวจะได้มีกล้องดีๆไว้ถ่ายรูปเก็บไว้ครับ
* ส่วนคำถามที่ว่าแล้วถ้า GR3 ออกมาจะทำไง ยิ่งช่วงนี้กล้องใหม่ๆออกกันเป็นดอกเห็ด สำหรับผมอยากให้ GR2 ตกรุ่นเร็วๆ เพราะว่า กล้องตระกูลนี้ยิ่งเก่ายิ่งเทห์ครับ เพราะเราไม่ตามกระแสครับ ใครที่ชีวิตนี้ต้องใช้แต่กล้องออกใหม่ ให้ข้ามไปเลยครับ

แล้วข้อเสียมีไหม แน่นอนครับต้องมีอยู่แล้ว
* ที่ชาร์จแบตต้องซื้อแยก ทำไมไม่ให้มาด้วยเลย อันนี้ขอตำหนิหน่อย
* ของแต่งยังน้อยอยู่ครับ 
* ฮูดน่าจะเป็นวัศดุที่ดีกว่านี้ครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทาง East Enterprise กับ ร้าน Dof Camera ที่ส่ง GR2 มาให้ผมลองใช้ 
ซึ่งตอนนี้ GR2 ก็กลายเป็นกล้องติดกระเป๋าไปแล้ว ผมเคยบอกหลายๆคนว่า 

" GR2 คือ อวัยวะที่ 33 ของคนถ่ายภาพอย่างผมไปซะแล้ว "




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คุณค่าของรูป....โพลารอยด์

ภาพถ่าย....บนโต๊ะทำงาน